ไฟเขียว ! เสนอ ‘นาค’ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์ในตำนาน

ไฟเขียว ! เสนอ ‘นาค’ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์ในตำนาน

คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) มีมติเห็นชอบเสนอให้ เสนอ ‘นาค’ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์ในตำนาน วันนี้ (12 มิ.ย.65) เฟซบุ๊กแฟนเพจ รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล ออกมาโพสต์ระบุว่า “กระทรวงวัฒนธรรม” รายงานที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) มีมติเห็นชอบเสนอให้ “นาค” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติประเภทสัตว์ในตำนาน เนื่องจาก “นาค” มีความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตและดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนานและเกี่ยวข้องกับสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์

แม้ประเทศไทยจะรับวัฒนธรรมเรื่อง“นาค” มาจากประเทศอินเดีย 

แต่ไทยได้นำมาปรับ สร้างสรรค์และต่อยอดโดยสื่อออกมาผ่านขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมและพิธีกรรมต่างๆ รวมถึงงานวรรณกรรม ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ซึ่งมีอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย อีกทั้งปัจจุบันมีการนำเรื่อง “นาค”ไปต่อยอดSoft Power ความเป็นไทย เช่น ละคร ภาพยนตร์โดยมีการเผยแพร่ไปสู่สังคมโลก

ทั้งนี้ ผู้แทนคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้ประสานสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรให้เขียนภาพต้นแบบ“นาค”เพื่อให้คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติและคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติพิจารณาก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี

จากภาพนั้นเป็นการพูดคุยถึงเรื่องของพานไหว้ครูที่ทางผู้ปกครองสอบถาม ว่า เพราะเหตุใดทางโรงเรียนถึงต้องเก็บค่าพานไหว้ครู 30 บาท ซึ่งทางครูก็ได้อธิบายว่าไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เห็นว่าอยู่ร่วมกันก็ควรมีความรับผิดชอบและช่วยเหลือเพื่อนๆ

ทั้งนี้ในเวลาต่อมาครูท่านเดิมก็ได้ระบุว่า จะคืนเงินทั้งหมด และ ครูจะจ่ายเอง ซึ่งแม่ก็ได้ออกมาขอโทษที่ได้ออกมาถามจึงทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงจะจบสวยๆแล้ว ถ้าครูไม่เขียนต่อว่าแม่ว่า “ถ้าจะถามควรจะไตร่ตรองก่อนนะคะ”

ซึ่งผู้เป็นแม่ก็งงว่า ทางแม่ไม่ได้กล่าวหา แค่ามเฉย และไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น ด้านครูก็ซัดแรงว่า “คิดได้คิดเป็นก็น่าจะคิดได้นะคะเป็นแม่คนแล้วนะคะ”

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปคนก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก โดยเฉพาะครูที่ดูหัวร้อน และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเหตุการณ์นี้

ยังไง?! ทนายเผย ลุงพลทำร้ายยูทูบเบอร์ ขณะเคลื่อนย้ายรูปปั้นพญานาค

ทนายเกิดผล เผย ลุงพลทำร้ายยูทูบเบอร์ ขณะเคลื่อนย้ายรูปปั้นพญานาค ด้านชาวเน็ตถกสนั่น ยูทูบเบอร์เป็นฝ่ายยั่วยุลงพล กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง สำหรับนาย ไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ ที่ถูกกล่าวหาว่า ลุงพลทำร้ายยูทูบเบอร์ ที่ไปเกาะติดการเคลื่อนย้ายรูปปั้นพญานาค ที่ถูกศาลสั่งเคลื่อนย้าย จากกรณีตัดไม้ในเขตป่าสงวน

โดยเพจเฟซบุ๊กของ ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อความระบุว่า “จำเลย คนดัง แห่งบ้านกกกอก คดีน้องชมพู่ และลูกน้อง รุมทำร้ายยูทูบเบอร์ ที่ไปเกาะติดการเคลื่อนย้ายรูปปั้นพญานาค ตามคำสั่งของศาลมุกดาหาร”

อย่างไรก็ตามทางชาวเน็ตก็ได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็นลุงพลรุมทำร้ายยูทูบเบอร์ว่า ให้รอฟังความทั้งสองฝั่งก่อน หรือ บางคนที่มีการบอกว่า เป็นการไลฟ์หาเรื่องยั่วยุ เพราะว่าพื้นที่ตรงนั้นมีคำสั่งห้ามถ่าย อย่างไรก็ดีมีชาวเน็ตอีกส่วนมองว่า ทางลุงพลนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขา เพราะว่า ทางลุงไม่มีสิทธิ์บนพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดมุกดาหารพิพากษาคดีตัดไม้ในเขตป่าสงวน สั่งจำคุก 2 ปี 3 เดือน รอการลงโทษ 2 ปี พร้อมมีคำสั่งให้รื้อถอนพญานาคภายใน 30 วัน โดยลุงพลวางแผนว่าจะย้าย รูปปั้นพญานาคไปไว้ที่ จังหวัดสกลนคร

นอกจากนี้ศาลยังได้ตัดสินจำคุก นายธีรพงษ์ (สงวนนามสกุล) และนายนิคม (สงวนนามสกุล) สองยูทูบเบอร์ เป็นระยะเวลาอีก 1 ปี ในข้อหา ในข้อหาร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าแจ้งข้อกล่าวหาต่อลุงพล พร้อมยูทูบเบอร์ 2 คน ในข้อหาตัดไม้ในเขตป่าสงวนดงภูพาน โดยมีหลักฐานเป็นคลิปยูทูบเบอร์กำลังตัดต้นกระถินป่า 4 ต้น ตรงจุดสร้างพญานาคและปรับพื้นที่

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่โอไมครอนจะจบเมื่อไหร่เพราะอีกคงไม่นานแต่ที่จะแทรกมาปัจจุบันทันด่วนก็คือโอไมครอนตัวน้อง BA.2 ซึ่งติดและแพร่เร็วกว่า และน่าจะติดซ้ำซ้อนได้ใหม่และการศึกษาในสัตว์ทดลองมีอาการรุนแรงกว่า และยังขึ้นอยู่กับวาเรียนท์ใหม่ๆ

การฉีดวัคซีนขณะนี้ เมื่อถึงเข็มสาม ด้วยการฉีดที่ควรมีความปลอดภัยสูงสุดคือ การฉีดเข้าชั้นผิวหนัง ต้องเข้าใจว่าไม่กันติดแล้วแต่น่าจะช่วยกันหนักหรือกันตาย และไปรอเข็มต่อไปซึ่งต้องเป็นวัคซีนครอบจักรวาลโควิดทั้งเก่าและที่จะมาใหม่”

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า